 |
| Eyewear - ZeroUV Dress- Zaful Choker- WEGO Japan |
When you have become one of Thai travel bloggers, I guess nothing is better than editing the photos of the trip. Because that is how I feel :) As mentioned that I was welcomed by the minimal& chic well-designed Amba Taipei Songshan hotel during my trip to Taiwan a week ago, here is the guide of what to do in Songshan, a peaceful neighborhood of Taipei.
*ภาษาไทยมีด้านล่างค่ะ*
All I could say is that this is such a perfect area for those who enjoy eating (I mean, the local food, and yes food bloggers, you should go there!) Since, this's the right place for me to experience a broad range of real Taiwanese food! If you have a chance to visit Taipei's city center, there will be loads of cool & hip places to have dinner, including Japanese restaurants, Rilakkuma Cafe (post is coming by the way!), etc. Therefore, I really loved Songshan for making me feel like I arrived in Taipei.
So, where should I begin, because there are so many things I would like to cover in this post haha...Ok, first of all, the places featured here only 5- 15 minutes walking distance. And the photo below is the front of the hotel building actually. The area of Songshan's more like a business neighborhood. No big shopping malls, or hipster cafes like in the center. In short, it's the place for street food, night market, and local clothing shops. Moreover, the hotel's a bridge, which links to the MRT (subway Songshan station).
Are you familiar with Watson, and 7-11? Watson is like an all in one cosmetic shop (similar to Boots), which is popular in Asia. While 7-11 is the convenient store, opened 24/7. Life in Asia is so convenient, isn't it?! Around the area, there are many 7-11, so it's very easy to go there and buy some food back to the hotel's room! Apart from the food, there are drinks, noodle cups, Muji utensil kits, snacks, vitamins, skincare, and many more. You would be surprise how variety of the items they are!
Not only Watson, but there's also the Japanese drug store! If you are into the Japanese cosmetics, this place is the real heaven. Everything in the shop's all Japanese, even the items and background music. However, personally, I think some of the items were cheaper, compared to the goods I had bought from Tokyo...Well, the some of the cosmetics I bought from Watson also cheaper than Thai's!
Ok, so when I walked around the area, there were a lot of food places along the street, not including the night market, which was packed at night. Unfortunately, nothing was written in English. Hence, pointing at the menu's photo was the only thing I could do. I didn't think it was struggling or anything, it was fun actually. To go to somewhere, where people do not really speak English always interesting. Not only I can learn the culture, but also the language. Besides, the temple's only 5 minutes walk from here.
จากโพสที่แล้วที่เคยบอกไปว่าแก้วอยู่ที่โรงแรม Amba Taipei Songshan ตอนมาเที่ยวไต้หวันนะคะ วันนี้แก้วก็จะมาแชร์ให้ฟังว่าแถวๆ นี้มีอะไรทำบ้าง บอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับคนที่มาไต้หวันเพื่อ 'กิน' โดยเฉพาะอาหารในสไตล์โลคอล จริงๆ ถ้าไปที่ใจกลางเมืองของไต้หวันก็จะได้อีกฟีลหนึ่งในเรื่องของร้านอาหารเพราะว่ามีทั้งร้านอาหารสุดคูลและฮิปอยู่เต็มไปหมด แต่บริเวณโรงแรมนี้ทำให้แก้วรู้สึกเหมือนว่าได้มาไต้หวันจริงๆ ไม่รู้นะบางคนอาจจะมีจุดประสงค์ในการไปเที่ยวที่ต่างกัน แต่สำหรับแก้วๆ ชอบที่จะสัมผัสความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่จริงๆ เหมือนตอนที่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ แก้วก็จะไปแต่ตามสถานที่วัยรุ่นอังกฤษไปเดินกัน ไม่ได้ไปที่ๆ นักท่องเที่ยวไปเลย เพราะมันจะได้ฟีลแบบว่า "I'm here"
โอเคเราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี คือเนื้อหามันเยอะมากไม่รู้จะพูดยังไงหมด 55 เอาเป็นว่าทุกอย่างในโพสนี้อยู่ห่างจากโรงแรมเพียงแค่ 5- 15 นาที เดินได้ไม่ต้องนั่งรถ แต่จะไม่มีห้างใหญ่หรือคาเฟ่เก๋ๆ แบบในเมืองนะคะเพราะว่ามันจะเป็นฟีลร้านอาหารข้างทาง ตลาดตอนกลางคืน และ ร้านเสื้อผ้าอารมณ์แบบสยาม ส่วนภาพด้านล่างนี้ก็จะเป็นตัวตึกของโรงแรมและบริเวณโดยรอบค่ะ จะเห็นได้ว่ามีแต่ตึกทำงานเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่สำคัญคือโรงแรมจะมีสะพานเชื่อมเดินไป MRT หรือรถไฟใต้ดินสถานี Songshan ได้เลย สะดวกมาก แถมตึกรถไฟใต้ดินก็มีของขายและของกินเยอะเช่นร้าน Uniqlo OOTOYA และอื่นๆ อีกมากมาย เซเว่นในตึกก็มี บอกเลยว่าอยู่ไต้หวันไม่อดตายเรื่องของกินแน่ๆค่ะ
ไปไต้หวันไม่ต้องห่วงเพราะ Watson เยอะ เซเว่นก็เยอะ อย่างที่บอกว่าเซเว่นบ้านเค้าคล้ายกับที่ญี่ปุ่นเพราะมีทั้งโอเด้ง ของใช้มูจิ อาหารเยอะแยะเลยค่ะ ส่วนวัตสันก็คล้ายๆ บ้านเรานะแต่แค่เค้ามีเครื่องสำอางแบบแบรนด์ดังๆ ยิ่งสาขาในเมืองก็มีขายเครื่องสำอาง Pony Makeup คือดีค่ะ 555 ส่วนใหญ่จะมีสองชั้นเหมือนอารมณ์ร้านขายเครื่องสำอางที่ประเทศญี่ปุ่น แต่แก้วว่าราคาที่ไต้หวันถูกกว่า จริงๆ ถูกกว่าไทยด้วยซ้ำ อย่างเช่น โฟม วิป ก็ถูกกว่า
นอกจากนี้แถวนี้ยังมีร้านเครื่องสำอางญี่ปุ่นอย่างที่เคยบอกไปด้วย คือเดินข้างในก็นึกว่าอยู่ญี่ปุ่นเพราะของทุกอย่างก็คือไอเท็มจากญี่ปุ่น มีสองชั้นเหมือนกัน แถมเพลงก็ญี่ปุ่นค่ะ แต่ราคาของในร้านนี้ก็อาจจะใกล้เคียงกับญี่ปุ่นนะหรือบางชิ้นก็อาจจะถูกว่า เพราะโฟมกุหลาบของ Kanebo ที่แก้วซื้อก็ถูกกว่าญี่ปุ่นแถมไม่มีลิมิทชิ้นด้วย ตอนไปญี่ปุ่นเพื่อนยุ่นบอกว่าเค้าให้ซื้อคนละสองชิ้นเพราะมันขาดตลาด แต่ที่นี่ไม่น่าจะมีนะเพราะคนเดินน้อย ที่เห็นก็จะมีพี่ไทยเนี่ยแหละค่ะที่เดินวนอยู่ในร้านเช่นเราเป็นต้น 55
รอบๆ ก็จะเป็นร้านอาหารข้างทางที่ไม่มีป้ายภาษาอังกฤษบอก ดังนั้นแนะนำค่ะว่าจิ้มภาพ จริงๆ แก้วไม่คิดว่ามันลำบากหรืออะไรเลยนะ แต่ว่าสนุกมากกว่าเวลาไปที่ๆ คนไม่พูดภาษาอังกฤษเพราะแก้วคิดว่ามันเป็นชาเลนจ์อย่างหนึ่งแถมยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมแบบเต็มๆ ด้านล่างนี้จะเป็นอีกร้านหนึ่งที่แก้วชอบ มันเหมือนแบบเกี๊ยวซ่าก้อนใหญ่ๆ ทอดด้วยน้ำ คือไม่กรอบนะแต่จะนิ่มๆ เจ้าของร้านจะเป็นคุณลุงมีอายุทำกับภรรยาของเค้า แต่ละไส้จะไม่เหมือนกันแต่ที่แก้วเลือกมาคือไส้ที่มีผักกาดและวุ้นเส้นด้านในค่ะ กินตอนร้อนๆ อร่อย! แต่รสชาติจะไม่ได้จัดเหมือนอาหารบ้านเรานะ ซึ่งแก้วว่าก็โอเค
อีกอย่างที่โอเคก็คือซาลาเปาเจ้านี้เลย คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าดังอยู่นะเพราะเห็นเค้านึ่งที่เป็นตู้เลย อันที่แก้วซื้อมาคือซาลาชีส แต่ต้องกินตอนร้อนๆ นะไม่งั้นมันจะเหนียว แต่บอกเลยว่าลูกใหญ่มากก เห็นในรูปอาจจะธรรมดาแต่ของจริงชิ้นเดียวคืออิ่ม นอกจากนี้ใครอยากไปวัดไต้หวันก็เดินจากตรงนี้ไปได้เลยใช้เวลาประมาณห้านาที ซึ่งระหว่างทางก็จะเป็นร้านของกิน ของฝากอีกเพราะตอนกลางคืนทัวร์จีนลงเยอะ! เพราะเค้าจะมีตลาดตอนกลางคืนซึ่งบางร้านคนต่อคิวยาววววมาก ไว้เดี๋ยวโพสหน้าจะมาบอกว่าที่ตลาดกลางคืนมีอะไรกันมั่งนะคะ :)
และนี่ก็คือของกินที่เราไปซื้อมาในวันแรกนั่นเอง แต่มาม่าอร่อยนะ 555 เดือนหน้านี้แก้วก็จะบินอีกแล้วแต่คราวนี้จะไปญี่ปุ่นเพื่อร่วมงานกับบล็อกเกอร์อีก 15 คนจากทั่วโลก จะเป็นยังไงนั้นเดี๋ยวจะมาแชร์ให้ฟังกันว่าไปไหนมาบ้างและมีอะไรเที่ยว
